เรื่องของกระเป๋า...Backpack

กระเป๋าเป้ Backpack

การจะเลือกกระเป๋าเป้สำหรับเดินทาง Backpack สักใบแล้ว ควรที่จะคำนึงถึงขนาดความยาว น้ำหนัก ความเบา การรองรับน้ำหนัก และส่วนต่างๆ เสริมของกระเป๋าที่จะช่วยทุ่นแรงเวลาแบกได้ นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของคุณภาพความคงทน เนื่องจากเวลาเดินทางมันก็จะสมบุกสมบันกันบ้าง ต้องเจอทั้งแดด เจอลม เจอฝน ฉะนั้นเรา ถึงบอกว่ามันคือเรื่องสำคัญที่นักเดินทางต้องใส่ใจ

และเพื่อนักเดินทางทุกคนแล้ว เราก็เลยยกการจัดอันดับจาก รีวิวผู้ใช้งานกระเป๋าเป้ Backpack และรวบรวมเอา 6 ยี่ห้อกระเป๋าสำหรับ Backpack ที่นักเดินทางการันตีแล้วว่าดีจริงมาฝาก

1. NorthFace

เป็นกระเป๋า Backpack ที่มีคนพูดถึงเยอะมากเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้สำหรับ กระเป๋าเป้เดินทางของแบรนด์ของอเมริกา อย่าง NorthFace จากการที่หาข้อมูล ดูรีวิวมานั้นมีนักเดินทางแนะนำมาเยอะที่สุดเลยก็ว่าได้

กระเป๋าเป้ของ NorthFace นั้น เหล่า backpacker ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า กันลม กันหนาวได้ดีจริง แล้วแถมยังกันน้ำได้ด้วย เจอฝน เปียกน้ำ กระชากแรง ก็ยังทนทานตลอด ขาดยาก แถมระบบหลังที่ช่วยซอฟต์น้ำหนัก มันนุ่มติดหลังดี เพียงแต่ว่าราคากระเป๋า NorthFace นั้นค่อนข้างมีราคาแพง

แต่ทั้งนี้อาจเป็นเพราะวัสดุตัวเป้ที่ทำจาก Condura ซึ่งทนการเสียดสีได้มากกว่ากระเป๋าทั่วไปที่ทำจาก Nylon ปกติได้ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว ซึ่งสมมุติว่ากระเป๋าอื่นทนการเสียดสีได้ 1,000 ครั้ง กระเป๋า NorthFace สามารถทนได้ถึง 3000 ครั้ง มันก็คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

2. Deuter

กระเป๋าเดินทาง Deuter เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่นักเดินทางชอบมาก ไม่แพ้กับ NorthFace นักเดินทางหลายคนบอกว่า คุณภาพดีใช้ได้ น้องๆ NorthFace เลยแต่ราคากระเป๋าเดินทาง Deuter เบากว่า เน้นใช้คุ้มในงบจำกัด อาจจะด้วยวัสดุ ตัวเป้ผลิตจาก Nylon 600 D เคลือบด้วยสารกันน้ำ

Deuter เป็นกระเป๋าเดินทาง backpack แบรนด์สัญชาติเยอรมัน เหมาะสำหรับทุกการเดินทางด้วยคุณภาพ ราคา การดีไซน์ และการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน แต่ก็มีบ้างที่พอใช้นานๆ ไปวัสดุเคลือบกันน้ำอาจจะลอกเป็นขุย แต่โดยรวมแล้วคือ ทนทาน ถึก และคุ้มค่า

3. Jack Wolfskin

เป็นกระเป๋ายี่ห้อที่ราคาแรงพอๆ กับ NorthFace แต่ว่าเป็นแบรนด์ฝั่งเยอรมนี คุณภาพกระเป๋าเป้ยี่ห้อ Jack Wolfskin นี้ดีไม่แพ้ NorthFace เลยที่เดียว มำจากวัสดุกันน้ำ และมีผ้ากันฝน ความทนทานไม่ต้องห่วง ใช้ได้ยาวๆ แถมการเย็บตะเข็บก็ปราณีตมาก ไม่ต้องกลัวปริเลยที่เดียวเพราะเย็บแน่นหนา

ในเยอรมันนักเดินทางนิยมใช้กระเป๋าเป้ของ Jack Wolfskin กันเยอะมาก บางรุ่นสามารถใส่หมวกจักรยานได้ด้วย หรือบางรุ่นก็มี LED Lamp สามารถมองเห็นในที่มืดและเวลากลางคืน

4. Osprey

แม้จะมีคนใช้ไม่เยอะ แต่เหล่า Backpacker ที่เคยใช้ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าใช้ดี ทนทาน ไม่ขาดไม่พังง่ายๆ โดยกระเป๋าเป้ Backpack ของ Osprey นี้เป็นแบรนด์สัญชาติอเมริกัน และเป็นยี่ห้อนึงที่ยังมันไม่โหล ของปลอมในตลาดยังไม่ระบาดเท่ายี่ห้ออื่น

การดีไซน์รูปแบบกระเป๋าของ Osprey ถือว่าการออกแบบสวย มีความเป็นนักเดินทางที่ผสมผสานความฮิปสเตอร์ และออกแบบให้มีน้ำหนักที่เบา และตรงกับจุดประสงค์ในการแบกเที่ยวสำหรับทริปยาวๆ มีการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน ซ่อมฟรี แถมคุณภาพกระเป๋าก็สมกับราคา

5. Columbia

มีอีกหนึ่งกระเป๋าเดินทาง backpack สัญชาติอเมริกา ที่เข้าตานักเดินทางอยู่เหมือนกัน โดยเหล่า Backpacker หลายคนต่างบอกว่า ใช้ดี แล้วกระเป๋าของ Columbia ส่วนใหญ่จะใช้เทคโนโลยีในการผลิตระดับสูง งานดี มีคุณภาพ กันน้ำกันฝนไม่ซึม แถมระบายอากาศได้ดี เหมาะจะซื้อหามาไว้ใช้ในทริปการเดินทาง

6. Gregory

จัดว่าเป็นกระเป๋ายี่ห้อหนึ่งที่คุณภาพดีเกินคาด แต่ในไทยไม่ค่อยมีใครพูดถึง และก็น้อยคนที่จะรู้จักกับกระเป๋า Backpack ของแบรนด์นี้ โดยกระเป๋าเป้และกระเป๋าเดินทางแบบแบ็คแพค Gregory ทุกรุ่นทุกใบออกแบบมาเพื่อให้แบกใช้งานได้อย่างสบายและรู้สึกไม่ง่อนแง่น ยกเป้ที่ใส่ของจนเต็มขึ้นบนหลัง แล้วจะรู้ว่ามันดีมากๆ เนื่องจากเขามีการออกแบบในการรับและกระจายน้ำหนักทำให้แบกได้สบายมาก ซึ่งราคาก็จะค่อนข้างสูงตามคุณภาพ

ที่มา; https://www.gobear.com/th/blog/six-best-backpacks

เรื่องของกระเป๋า...คือ?

กระเป๋า คือ อุปกรณ์อย่างหนึ่งที่มีไว้เพื่อแบกของหรือสัมภาระต่างๆติดตัวเราไว้เพื่อพกพาไปยังที่ต่างๆ มีมาตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว จากที่เริ่มทำด้วยผ้า ทำด้วยหนังสัตว์ จนกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมีกันเสียแล้วในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานประเภทใดก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ทำให้กระเป๋านั้นยังคงอยู่ทุกยุคทุกสมัยนั่นก็คือเรื่องของประโยชน์จากการใช้งานได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย หรือผู้หญิงก็ต้องใช้กระเป๋า คนเ้ราเกิดมาก็มีกระเป๋าได้มากกว่าคนละหนึ่งใบอยู่แล้ว ซึ่งก็จะจำแนกประเภทเป็นกระเป๋าต่างๆตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีสินค้าที่เป็นกระเป๋าหลากหลายรูปแบบ ซึ่งก็สามารถจำแนกได้ดังนี้

• กระเป๋า Backpack รูปแบบการใช้งานนั้นเอาไว้เพื่อสะำพายหลัง มีสาย2ข้างสำหรับการสะพายบ่าทั้งสองด้านด้วยเช่นกัน 
• กระเป๋า Briefcase หรือกระเป๋าใส่เอกสาร มีลักษณะเหมือนเป็นกล่องแข็งไว้สำหรับการใส่เอกสาร ขนาดพอดี กับเอกสารขนาด A4 และมีรูปแบบแตกต่างกันไป
• กระเป๋าถือ เ้ป็นกระเป๋าสำหรับพวกผู้หญิงที่ออกแบบดีไซน์มาเพื่อใส่ของติดตัวของผู้หญิงได้อย่างเช่น เครื่องสำอางค์ กระเป๋าสตางค์ หรือว่าโทรศัพท์มือถือ
• กระเป๋าสตางค์ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นกระเป๋าที่เอาไว้สำหรับใส่เงิน บางกระเป๋าสามารถที่จะใส่การ์ด หรือเหรียญได้ด้วย
• กระเป๋ารัดเอว กระเป๋าประเภทนี้ถือเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่งที่มีการออกแบบมาไว้เ้พื่อสำหรับคาดเอว ใช้งานทั่วไปได้
• กระเป๋า Messenger ถูกออกแบบมาเพื่อไว้สำหรับผู้ที่ทำงานด้านการส่งเอกสารโดยเฉพาะ ให้สามารถรับน้ำหนักได้มาก และเพื่อให้เกิดการใช้งานที่ทะมัดทะแมง
• กระเป๋าควิลท์ ผลิตมาจากผ้าหรือหนังเนื้อนิ่ม มีจุดเด่นคือเรื่องของการเย็บที่มีรอยสวยงาม อย่างที่นิยมกันก็จะเป็นงานฝีมือ

ทุกสิ่งที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่ทำขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้งาน และนอกเหนือจากนั้นก็คือความสวยงาม แฟชั่นเข้ามามีบทบาทให้มีทางเลือกในการซื้อกระเป๋าที่หลากหลายขึ้น นั่นก็เป็นการดีที่เราจะมีสินค้าสวยๆใช้ ไม่ต้องหาซื้อให้ไกล หรือให้มีราคาสูงปรี๊ด ปัจจุบันกระเป๋าที่เป็นงานแฮนด์เมดได้รับความนิยมมาก เนื่องจากมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เหมาะสมกับผู้หญิงที่รักความสวยงามในการแต่งตัว

ที่มา: honeyquilt.com/a_19529_6468_เรื่องของกระเป๋า.htm

เรื่องของกระเป๋า...หรู

HERMES
ที่สุดแห่งกระเป๋าของผู้หญิงทุกคน

อุปกรณ์ เครื่องประดับที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลายยามที่ต้องออกไปโฉบเฉี่ยวอยู่ภายนอกบ้านนั่นคือกระเป๋า โดยมีตั้งแต่กระเป๋าถือใบเล็กใบใหญ่ กระเป๋าสะพาย คลัตช์ กระเป๋าเอกสาร หรือกระเป๋าเดินทาง และเมื่อกวาดสายตาพบว่าผู้หญิงคนใดไม่มีกระเป๋าคู่กาย เราสามารถบอกได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า “แปลกมาก!” เอาล่ะวันนี้เราจะมาร่ายยาวเรื่องของกระเป๋าไฮเอนด์ยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งหากบอกชื่อไปแล้วทุกคนจะต้องร้องอ๋อ แต่ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะหาซื้อกระเป๋าแบรนด์นี้มาถือเพื่ออวดสายตาคนทั่วไปได้ง่ายๆ และกระเป๋าเพียงยี่ห้อเดียวที่ทำเช่นนี้ได้คือ แอร์เมส (Hermes)

Hermes ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1837 โดยเทียร์รี่ แอร์เมส ชาวฝรั่งเศส ด้วยการเป็นผู้ผลิตอานม้าและเครื่องใช้สำหรับการขี่ม้า ซึ่งผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นผ่านกรรมวิธีการผลิตอย่างพิถีพิถันรวมถึงวัสดุชั้นดี กระเป๋าหนังทุกใบของ Hermes ได้รับการตัดเย็บด้วยมือโดยหนังที่ใช้ต้องเป็นเกรดเอเท่านั้น ทั้งหนังวัว หนังนกกระจอกเทศ หนังตะกวดและหนังจระเข้ ว่ากันว่าหนังจระเข้ต้องไร้ซึ่งรอยขีดข่วนและจระเข้ต้องถูกเลี้ยงในบ่อหินอ่อนเลยทีเดียว ขณะที่ช่างตัดเย็บทุกคนต้องผ่านการฝึกฝนจนชำนาญในโรงงานที่ฝรั่งเศสเป็นเวลานาน 3 ปีก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ผลิตกระเป๋าซึ่งแต่ละใบใช้เวลาราว 16-20 ชั่วโมง และจะต้องรับผิดชอบซ่อมแซมกระเป๋าตลอดอายุการใช้งาน และด้วยคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้เองที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆของแอร์เมสกลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหมู่ราชวงศ์และชนชั้นสูงของฝรั่งเศสในที่สุด

เทียร์รี่ แอร์เมส เจ้าของตำนานกระเป๋า HERMES

ปัจจุบันแบรนด์ Hermes ขึ้นชื่อมากที่สุดในเรื่องกระเป๋าสุดหรูราคาแพงระยับ แต่ต่อให้คุณเป็นมหาเศรษฐีมีเงินเป็นพันๆล้านและพร้อมควักจ่ายได้ในขณะนั้น ก็ใช่ว่าจะสามารถคว้ากระเป๋าหนังแบรนด์หรูนี้มาหิ้วเฉิดฉายในสังคมได้ทันที เนื่องจากมีเงื่อนไขว่าคุณต้องเป็นลูกค้าประจำ หรือไม่ก็ดูว่าคุณมีบุคลิกเหมาะสมกับกระเป๋าหรือไม่  ที่น่าทึ่งคือ..แม้ว่าจะมีเงื่อนไขยิบย่อยขนาดนี้ ทว่ากลับมียอดสั่งจองถล่มทลายและต้องรอคอยกันนานข้ามปีเลยทีเดียว

ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไม Hermes ตั้งราคาสูงแล้วขายได้ เนื่องจากเดิมมีการวางตำแหน่งของผลิตภัณฑ์โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้ที่ระดับ A+ ทั้งหมดบวกกับกลยุทธ์ Waiting list จึงยิ่งทำให้กลายเป็นที่ต้องการมากขึ้น แม้ Hermes จะผลิตกระเป๋าออกมาหลายรุ่น แต่รุ่นที่ติดอันดับยอดนิยมตลอดกาลมีอยู่ 2 รุ่นคือ Kelly กับ Birkin เอาล่ะเรามาเริ่มที่ประวัติของรุ่น Kelly กันก่อนดีกว่า

รุ่น Birkin

รุ่น Kelly

เชื่อไหมว่ากระเป๋าหนังรุ่น Kelly ดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมาได้เนื่องจากในปี 1956 เกรซ เคลลี่ หรือเจ้าหญิงเกรซ แห่งโมนาโกได้ใช้กระเป๋า Hermes รุ่น Sac à dépêches ซึ่งเป็นชื่อเดิมปิดพระครรภ์ของพระองค์เอาไว้ และเมื่อภาพดังกล่าวถูกนำไปตีพิมพ์ในนิตยสาร People ก็กลายเป็นกระแสฮือฮาในหมู่แฟชั่นนิสต้า ไม่นานนักกระเป๋ารุ่นนี้ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นรุ่น Kelly

ที่มา: http://www.hermes.com